ใบสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
ชื่อ (นาย/นาง/นางสาว) - นามสกุล
เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
หมายเลขโทรศัพท์
อีเมล์
LINE ID.
Facebook
X
อาชีพปัจจุบัน
ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (และรหัสไปรษณีย์)
ที่อยู่ปัจจุบันที่สามารถติดต่อได้ (และรหัสไปรษณีย์)
ประสงค์สมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติประเภท
สำเนาบัตรประชาชน
Support file .jpg, .jpeg, .png, .pdf (Maximum 1 MB)
สำเนาทะเบียนบ้าน
Support file .jpg, .jpeg, .png, .pdf (Maximum 1 MB)
รูปถ่าย
Support file .jpg, .jpeg, .png, .pdf (Maximum 1 MB)
หลักฐานการชำระค่าสมาชิก (โอนเข้าบัญชีพรรคตามรายละเอียดด้านล่าง)
Support file .jpg, .jpeg, .png, .pdf (Maximum 1 MB)
โปรดระบุบัญชีธนาคารของท่าน สำหรับการโอนคืนเงินค่าสมัคร ในกรณีที่ท่านไม่ผ่านคุณสมบัติการเป็นสมาชิก
ข้าพเจ้าขอรับรองและให้ความยินยอมตามข้อกำหนดในการสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนี้

บัญชีธนาคารสำหรับชำระเงินค่าสมัครสมาชิก



ชื่อบัญชี พรรครวมไทยสร้างชาติ

ธนาคารกรุงไทย สาขาประดิพัทธ์ 13

เลขที่บัญชี 034-0-25375-4

สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้


ก. คุณสมบัติ

(1) มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด ในกรณีเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติจะต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี (5)

(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี (18ปี)


ข. ลักษณะต้องห้าม

(1)ติดยาเสพติดให้โทษ

(2)เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

(3) เป็นภิกษุสามเณร นักพรต หรือนักบวช

(4)อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดเเล้วหรือไม่

(5) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

(6) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

(7)ต้องคำพิพากษาให้จำคุกเเละถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล

(8) เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปี

(9) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ (10ปี) นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นเเต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(10) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

(11) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง

(12) เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและมีสมาชิกภาพสิ้นสุดลงมายังไม่เกินสองปี (2 ปี)

(13) เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำเเหน่งในองค์กรอิสระ

(14) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง

(15) เคยพ้นจากตำเเหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอเเปรญัตติ หรือ การกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาหรือกรรมาธิการ มีส่วนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย

(16) เคยพ้นจากตำเเหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์รํ่ารวยผิดปกติหรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติเเห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายเเรง

(17) อยู่ในระหว่างถูกสั่งห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

(18) ไม่เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นๆหรือผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองอื่น หรือผู้เเจ้งการเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองอื่น

(19) ไม่เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุกว่ากระทำความผิดต่อตำเเหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำเเหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา เว้นเเต่เป็นการรอการลงโทษ

(20) ไม่เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุกว่าการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนักกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันเเละปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน


ผู้สมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ต้องรับรองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในเอกสารสมัครสมาชิกข้างต้นโดยชอบด้วยกฎหมาย

มีความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดและตั้งใจเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยความตั้งใจและยินยอมของตนเอง

หนังสือยินยอมให้เก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้ พรรคสร้างไทยสร้างชาติ ("พรรคฯ") ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้


1. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล


1.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้สมัครเข้าเป็นพรรคฯ ซึ่งได้แก่ การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา ตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆเพื่อคัดเลือกก่อนการอนุมัติให้เป็นสมาชิกพรรค

1.2 เพื่อใช้ในการสืบค้น วิเคราะห์ วิจัยข้อมูลสถิติ หรือเพื่อเป็นผลแก่สมาชิกพรรคเมื่อมีการสอบถามสืบค้นสถานะความเป็นสมาชิก

1.3 เพื่อใช้บันทึกเป็นข้อมูลของสมาชิกพรรคเพื่อทำเอกสารยื่นต่อหน่วยงานภายนอก อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

1.4 เพื่อใช้ในการดำเนินการของพรรคในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคล

1.5 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลอื่น อาทิ การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ เป็นต้น


2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล


2.1 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

เก็บรวบรวมโดยตรงจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลผ่านแบบฟอร์มต่างๆของพรรคฯ

เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น การสอบถามข้อมูลจากบุคคลที่สาม หรือ การสืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบเว็บไซต์โดยพรรคฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้า ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่พรรคฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งดังกล่าว

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ พรรคฯ จะคำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอย่างสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด

2.2 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผล

ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด รูปถ่าย วีดีโอ เพศ อาชีพ สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน ภาพสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ภาพสำเนาทะเบียนบ้าน

ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล รวมถึงข้อมูลในโซเซียลมีเดียต่างๆ

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ที่สาม เช่น ข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ความคิดเห็นทางการเมือง ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เช่น การจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ทั้งนี้ การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว พรรคฯ จะขอความยินยอมโดยชัดเจนแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว


3. การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


พรรคฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีที่จำเป็น เพื่อการปฏิบัติงานตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทราบให้แก่บุคคลภายนอก และ/หรือองค์กรหรือหน่วยงานภายนอก ดังต่อไปนี้

3.1 บุคคลภายนอกและ/หรือองค์กรหรือหน่วยงานภายนอก โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก และ/หรือองค์กรหรือหน่วยงานภายนอกดังกล่าว พรรคฯ จะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่พรรคฯ ได้กำหนดไว้

3.2 หน่วยงานราชการซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย

3.3 เพื่อเสนอขายสินค้าและบริการของพรรคฯ โดยพรรคสามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าให้กับบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากพรรคเสนอขายสินค้าหรือบริการของพรรคได้

3.4 เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สิทธิเสร็ภาพของราษฎร ขับเคลื่อนการทำงานในทางประชาสังคมเพื่อการพัฒนาประเทศ และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม รวมทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและการดำเนินงานขององค์กรอิสระ เป็นต้น


4. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม


4.1 พรรคฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้ในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเกทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่

กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ทั้งนี้ หากไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน พรรคฯจะเก็บรักษา

ข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม และเมื่อครบตามระยะเวลาดังกล่าวพรรคฯ จะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

4.2 กรณีที่พรรคฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลโดยขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล พรรคฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าเจ้าของข้อมูลจะแจ้งขอยกเลิกควานยินยอม และพรรคฯ ได้ดำเนินการตามคำขอยกเลิกนั้นเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ พรรคฯ จะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเท่าที่จำเป็น


5. สิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังต่อไปนี้


5.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับพรรคฯได้ ตลอดระยะเวลา ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

5.2 สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งให้พรรคฯ จัดทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล และมีสิทธิแจ้งให้พรรคฯ

เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอม

5.3 สิทธิในกาขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอให้พรรคฯ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่น และขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ที่พรรคฯ ส่งหรือโอนไปยังบุคคลอื่นได้

5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลบุคคลเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือ เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

5.5 สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอให้พรรคฯ ดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากพบว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไป หรือในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย

5.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งให้พรรคฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ในระหว่างรอการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้ร้องขอให้แก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้อง หรือขอให้ระงับแทนการขอให้ลบข้อมูล

5.7 สิทธิในการขอแก้ไข/เพิ่มเติมข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอให้พรรคฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ข้อมูลที่อาจ

ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และ/หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

5.8 สิทธิในการร้องเรียน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนในกรณีที่พรรคฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลบุคคล หรือประกาศที่

ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถใช้สิทธิตามกฎหมาย ได้โดยติดต่อมายังพรรคฯ หรือเจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูล

ส่วนบุคคลตามข้อ 8 และ 9 ของนโยบายฉบับนี้ (โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)

พรรคฯ จะดำเนินการและพิจารมาตามสิทธิที่เจ้าข้อมูลร้องขอภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้อง ทั้งนี้ พรรคฯ ขอสนวนสิทธิในการปฏิเสธ

การดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หรือตามสัญญาที่ทำไว้กับพรรคฯ


6. มาตรการรักษาความปลอดภัย


พรรคฯ ได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการเข้าถึงใช้หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การสูญหาย และการทำลาย โดยใช้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น การกำหนดชั้นข้อมูล หรือการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ พรรคฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น


7. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (พรรคฯ)


พรรครวมไทยสร้างชาติ สถานที่ติดต่อที่อยู่: 35/3 ซอยอารีย์ 5 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม. 10400


8. ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

8.1 ชื่อ: ฝ่ายอำนวยการพรรคฯ/ฝ่ายทะเบียนสมาชิกพรรค โทรศัพท์: 093-5700085, 02-2792112


9. พรรคฯ ขอสงวนสิทธิในการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความเหมาะสมภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ พรรคฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบต่อไป


ข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้นโดยตลอดแล้ว และได้ยอมรับใบสมัครฉบับนี้ เพื่อเป็นส่วนยินยอมตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้บัญญัติไว้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ