‘พันเอก เฟื่องวิชชุ์’ นำ 4 ว่าที่ผู้สมัคร คนรุ่นใหม่ เสนอนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ
อัพเดทล่าสุด: 19 พ.ย. 2025
10 ผู้เข้าชม

พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ให้ข้อมูลผ่านรายการ คุยตามสั่ง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ร่วมกับนายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยกล่าวถึงประสบการณ์การทำงานร่วมกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาเป็นเวลากว่า 20 ปี
.
พันเอก เฟื่องวิชชุ์ ยืนยันว่า นายพีระพันธุ์ ได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม อาทิ การแก้ไขปัญหาการบินไทยและการดำเนินคดีโฮปเวลล์ แม้ว่าที่ผ่านมานายพีระพันธุ์ จะเน้นการทำงานเชิงรุก แต่ไม่ประสงค์ออกสื่อก็ตาม
.
ด้วยบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป พ.อ. เฟื่องวิชชุ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารผลงานและการเสริมสร้างทีมงานให้เข้มแข็ง จึงได้ริเริ่มโครงการเฟ้นหาบุคคลที่เหมาะสมที่จะมาร่วมทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยบุคคลดังกล่าวต้องเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์และ DNA ตรงกับพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ ซื่อสัตย์ ยึดมั่นในชาติ สถาบัน และต้องการเข้ามาทำงานเพื่อประเทศอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ได้กล่าวเชิญชวนผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ
.
พันเอก เฟื่องวิชชุ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ปัญหาของประเทศไทยมีหลายอย่าง ทั้งปัญหาทุนเทา, การทุจริต หากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ดำเนินการและเสนอนโยบายเพื่อหาทางออกให้ประเทศ ตนก็ไม่เห็นว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร
ผมมั่นใจว่านโยบายต่าง ๆ ของนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ และคนเดียวที่จะทำได้ คือ นายพีระพันธุ์ เท่านั้น พันเอก เฟื่องวิชชุ์ กล่าว
.
จากนั้นนายกวิน ชาตะวนิช ว่าที่ผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางแค ภาษีเจริญ พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายประวิทย์ สุวรรณสัญญา ว่าที่ผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตทวีวัฒนา พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมพูดคุยถึงการเข้ามาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ แรงบันดาลใจและนโยบายในการทำงาน รวมถึงเป้าหมายทางการเมืองในรายการ โดยนายกวิน เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า เพราะเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ที่มั่นคง โดยเฉพาะในเรื่องของสถาบัน รวมทั้งพรรคยังได้สืบทอด DNA การทำงานที่ยึดหลักผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญมาจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนายพีระพันธุ์ ที่ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติมาโดยตลอด ด้วยแรงบันดาลใจดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนเลือกมาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมยืนยันว่า จะมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานตามแบบฉบับของนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ขอ มาทำงาน ไม่ได้มาเล่นการเมือง เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ประชาชนให้มากที่สุด
สำหรับนโยบายในท้องถิ่นที่อยากจะผลักดัน เนื่องจากที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวมักได้รับการดูแลน้อยกว่าฝั่งพระนคร ทำให้การพัฒนาหลาย ๆ อย่างดูไม่ทันสมัยเท่าที่ควร ผมจึงอยากผลักดันให้เขตบางแค-ภาษีเจริญ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีรายได้ ท้องที่เจริญพัฒนามากขึ้นด้วย นายกวิน กล่าว
.
ด้านนายประวิทย์ กล่าวถึงสาเหตุที่เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ผมเชื่อมั่นในตัวคุณพีระพันธุ์ ที่เป็นคนซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงาน ส่วนการทำงานการเมืองของผม ที่ผ่านมาแม้ยังไม่เคยมีโอกาสเป็นผู้แทน แต่ผมมีความตั้งใจทำงาน รับฟังปัญหาของประชาชนมาโดยตลอด จึงอยากขอโอกาสจากประชาชนเข้าไปแก้ไขปัญหา สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าผมและพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งใจเข้ามาทำงานแก้ปัญหาให้ประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง
.
สำหรับข้อซักถามเรื่องนโยบายเร่งด่วนระดับประเทศ 3 นโยบาย ที่ทั้งนายกวินและนายประวิทย์ อยากจะผลักดังนั้น นายกวินและนายประวิทย์ เห็นตรงกันว่า นโยบายแรกที่ต้องเร่งผลักดันในขณะนี้ คือ นโยบายความมั่นคงทางชายแดน เพราะเรื่องดังกล่าวสะท้อนถึงความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ ซึ่งไม่มีสิ่งใดจะสำคัญกว่านี้แล้ว โดยนายประวิทย์ กล่าวเสริมว่า หากใช้นโยบายทางการทูตได้ ก็เห็นควรว่าไทยต้องใช้นโยบายนี้ก่อน แต่หากสุดท้ายแล้วไม่ได้ผล การใช้กำลังทหารก็เป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาลต้องนำมาดำเนินการ เพื่อทำให้ปัญหาจบอย่างเด็ดขาด
.
นโยบายเร่งด่วนนโยบายที่สอง นายประวิทย์ กล่าวว่า ตนต้องการผลักดันนโยบายการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ เพราะมองว่ากลุ่มความหลากหลายทางเพศต้องได้รับการยอมรับและความเคารพมากกว่านี้ ส่วนนายกวิน กล่าวว่า ตนต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ในกระเป๋า ล้างหนี้สินให้ประชาชน ซึ่งจะต้องดำเนินนโยบายหลายนโยบายควบคู่กันไป ทั้งการเพิ่มการจ้างงาน, การสร้างความรู้ด้านการออม และนโยบายชำระหนี้ให้ประชาชน
.
สำหรับนโยบายด้านการศึกษา เป็นนโยบายลำดับที่ 3 ที่ทั้งนายกวินและนายประวิทย์ เห็นตรงกันว่าต้องเร่งผลักดัน โดยย้ำว่า รัฐบาลต้องส่งเสริมให้เยาวชนทุกคนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมและต้องจัดหาอุปกรณ์ทางการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนไทยอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนายกวินและนายประวิทย์ ยังเห็นด้วยกับนโยบายประหารชีวิตผู้ที่ทุจริตงบประมาณแผ่นดินที่เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายกวิน กล่าวว่า การทุจริตเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกมานานของสังคมไทยและกระจายไปทุกอาชีพ ดังนั้นนโยบายนี้จึงเป็นอีกนโยบายที่ต้องเร่งจัดการโดยด่วน ด้านนายประวิทย์ เสริมว่า อยากฝากประชาชนช่วยสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้นายพีระพันธุ์ และพรรคได้เข้าไปทำงานผลักดันกฎหมายนี้ให้ออกมาใช้บังคับได้จริงเช่นเดียวกับการเพิ่มโทษกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มสแกมเมอร์ เพื่อให้มีกฎหมายที่ดูแล ปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนได้อย่างแท้จริง
.
กฎหมายหลายอย่างในประเทศ ไม่ได้แก้ไขมานานหลายสิบปี แต่ผมมั่นใจว่าทั้งนโยบายการประหารชีวิตผู้ทุจริตและนโยบายเพิ่มโทษสแกมเมอร์ของนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำได้จริง ทั้งจะแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลัง ไม่ทันสมัย เพื่อช่วยประเทศและประชาชนได้ ผมจึงขอประชาชนช่วยสนับสนุนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้าไปเป็นรัฐบาลและผลักดันกฎหมายนี้ให้เกิดขึ้นจริง นายกวิน กล่าว
.
ด้านนายทรงยศ บุญบำรุงชัย ว่าที่ผู้สมัคร สส.กรุงเทพมหานคร เขตบางขุนเทียน ได้ร่วมให้สัมภาษณ์ในรายการ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ทำงานและพูดคุยกับประชาชน ปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนมากที่สุด คือ เรื่องการก่อสร้างถนนพระราม 2 ที่มีปัญหาทั้งการจราจรที่ติดขัด, ปัญหาความปลอดภัยจากการก่อสร้าง ซึ่งตนได้เข้าไปศึกษาผลกระทบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขปัญหาเท่าที่จะทำได้ เช่น การลดมลพิษทางเสียงและแสงจากการก่อสร้าง ซึ่งหากประชาชนคนใดได้รับผลกระทบดังกล่าวในระยะ 500 เมตร จากการก่อสร้าง สามารถประสานมาที่ตนได้แล้วตนจะนำเรื่องไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมย้ำว่า ตนพร้อมจะช่วยประชาชนในทุกเรื่องเท่าที่จะทำได้
.
ผมอาจจะใหม่ทางการเมือง แต่ผมย้ำว่า ผมเชื่อมั่นในตัวคุณพีระพันธุ์ เพราะท่านมีความสามารถ มีความรู้ มองเห็นปัญหา และเชื่อมั่นว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาให้ประเทศได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในเรื่องของกฎหมายที่มีความล้าหลัง ซึ่งคุณพีระพันธุ์มีความแม่นยำในเรื่องนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีผลงานที่ชัดเจนเพื่อประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง นายทรงยศ กล่าว
ในส่วนของนายรัชตะ สมบัติลาภตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวในรายการถึงนโยบายที่ต้องการเร่งแก้ไขว่า ตนต้องการผลักดันการแก้ปัญหาทุจริตในสถานบันเทิงที่มีข้าราชการคอยเก็บส่วนจากสถานบริการที่เปิดให้บริการอย่างผิดกฎหมาย รองลงมาคือปัญหาความปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงกลางคืนก็เป็นอีกปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งหากทำได้เชื่อว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยจะดีขึ้น และเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ระบบจำนวนมหาศาล นโยบายลำดับที่ 3 คือ การแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตให้คนไทย โดยเฉพาะโรคซึมเศร้า ที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะ 1 ใน 5 ของคนไทยประสบกับภาวะนี้ โดยเฉพาะนักเรียน
.
ผมขอเชิญชวนทุกคนเข้ามาศึกษาข้อมูลของพรรครวมไทยสร้างชาติ และมั่นใจว่าทุกนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะตอบโจทย์และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกคนได้อย่างแน่นอน นายรัชตะ กล่าว
.
รับชมรายการย้อนหลังได้ที่ : https://www.facebook.com/share/v/17RHfAQ69H/
.
พันเอก เฟื่องวิชชุ์ ยืนยันว่า นายพีระพันธุ์ ได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรม อาทิ การแก้ไขปัญหาการบินไทยและการดำเนินคดีโฮปเวลล์ แม้ว่าที่ผ่านมานายพีระพันธุ์ จะเน้นการทำงานเชิงรุก แต่ไม่ประสงค์ออกสื่อก็ตาม
.
ด้วยบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป พ.อ. เฟื่องวิชชุ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารผลงานและการเสริมสร้างทีมงานให้เข้มแข็ง จึงได้ริเริ่มโครงการเฟ้นหาบุคคลที่เหมาะสมที่จะมาร่วมทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยบุคคลดังกล่าวต้องเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์และ DNA ตรงกับพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ ซื่อสัตย์ ยึดมั่นในชาติ สถาบัน และต้องการเข้ามาทำงานเพื่อประเทศอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ได้กล่าวเชิญชวนผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานของพรรครวมไทยสร้างชาติ
.
พันเอก เฟื่องวิชชุ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ปัญหาของประเทศไทยมีหลายอย่าง ทั้งปัญหาทุนเทา, การทุจริต หากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ดำเนินการและเสนอนโยบายเพื่อหาทางออกให้ประเทศ ตนก็ไม่เห็นว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร
ผมมั่นใจว่านโยบายต่าง ๆ ของนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ และคนเดียวที่จะทำได้ คือ นายพีระพันธุ์ เท่านั้น พันเอก เฟื่องวิชชุ์ กล่าว
.
จากนั้นนายกวิน ชาตะวนิช ว่าที่ผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางแค ภาษีเจริญ พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายประวิทย์ สุวรรณสัญญา ว่าที่ผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตทวีวัฒนา พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมพูดคุยถึงการเข้ามาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ แรงบันดาลใจและนโยบายในการทำงาน รวมถึงเป้าหมายทางการเมืองในรายการ โดยนายกวิน เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า เพราะเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ที่มั่นคง โดยเฉพาะในเรื่องของสถาบัน รวมทั้งพรรคยังได้สืบทอด DNA การทำงานที่ยึดหลักผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญมาจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนายพีระพันธุ์ ที่ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติมาโดยตลอด ด้วยแรงบันดาลใจดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนเลือกมาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมยืนยันว่า จะมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานตามแบบฉบับของนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ขอ มาทำงาน ไม่ได้มาเล่นการเมือง เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ประชาชนให้มากที่สุด
สำหรับนโยบายในท้องถิ่นที่อยากจะผลักดัน เนื่องจากที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวมักได้รับการดูแลน้อยกว่าฝั่งพระนคร ทำให้การพัฒนาหลาย ๆ อย่างดูไม่ทันสมัยเท่าที่ควร ผมจึงอยากผลักดันให้เขตบางแค-ภาษีเจริญ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีรายได้ ท้องที่เจริญพัฒนามากขึ้นด้วย นายกวิน กล่าว
.
ด้านนายประวิทย์ กล่าวถึงสาเหตุที่เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ผมเชื่อมั่นในตัวคุณพีระพันธุ์ ที่เป็นคนซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงาน ส่วนการทำงานการเมืองของผม ที่ผ่านมาแม้ยังไม่เคยมีโอกาสเป็นผู้แทน แต่ผมมีความตั้งใจทำงาน รับฟังปัญหาของประชาชนมาโดยตลอด จึงอยากขอโอกาสจากประชาชนเข้าไปแก้ไขปัญหา สร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าผมและพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งใจเข้ามาทำงานแก้ปัญหาให้ประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง
.
สำหรับข้อซักถามเรื่องนโยบายเร่งด่วนระดับประเทศ 3 นโยบาย ที่ทั้งนายกวินและนายประวิทย์ อยากจะผลักดังนั้น นายกวินและนายประวิทย์ เห็นตรงกันว่า นโยบายแรกที่ต้องเร่งผลักดันในขณะนี้ คือ นโยบายความมั่นคงทางชายแดน เพราะเรื่องดังกล่าวสะท้อนถึงความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ ซึ่งไม่มีสิ่งใดจะสำคัญกว่านี้แล้ว โดยนายประวิทย์ กล่าวเสริมว่า หากใช้นโยบายทางการทูตได้ ก็เห็นควรว่าไทยต้องใช้นโยบายนี้ก่อน แต่หากสุดท้ายแล้วไม่ได้ผล การใช้กำลังทหารก็เป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาลต้องนำมาดำเนินการ เพื่อทำให้ปัญหาจบอย่างเด็ดขาด
.
นโยบายเร่งด่วนนโยบายที่สอง นายประวิทย์ กล่าวว่า ตนต้องการผลักดันนโยบายการส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ เพราะมองว่ากลุ่มความหลากหลายทางเพศต้องได้รับการยอมรับและความเคารพมากกว่านี้ ส่วนนายกวิน กล่าวว่า ตนต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ในกระเป๋า ล้างหนี้สินให้ประชาชน ซึ่งจะต้องดำเนินนโยบายหลายนโยบายควบคู่กันไป ทั้งการเพิ่มการจ้างงาน, การสร้างความรู้ด้านการออม และนโยบายชำระหนี้ให้ประชาชน
.
สำหรับนโยบายด้านการศึกษา เป็นนโยบายลำดับที่ 3 ที่ทั้งนายกวินและนายประวิทย์ เห็นตรงกันว่าต้องเร่งผลักดัน โดยย้ำว่า รัฐบาลต้องส่งเสริมให้เยาวชนทุกคนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมและต้องจัดหาอุปกรณ์ทางการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนไทยอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนายกวินและนายประวิทย์ ยังเห็นด้วยกับนโยบายประหารชีวิตผู้ที่ทุจริตงบประมาณแผ่นดินที่เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายกวิน กล่าวว่า การทุจริตเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกมานานของสังคมไทยและกระจายไปทุกอาชีพ ดังนั้นนโยบายนี้จึงเป็นอีกนโยบายที่ต้องเร่งจัดการโดยด่วน ด้านนายประวิทย์ เสริมว่า อยากฝากประชาชนช่วยสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้นายพีระพันธุ์ และพรรคได้เข้าไปทำงานผลักดันกฎหมายนี้ให้ออกมาใช้บังคับได้จริงเช่นเดียวกับการเพิ่มโทษกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มสแกมเมอร์ เพื่อให้มีกฎหมายที่ดูแล ปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนได้อย่างแท้จริง
.
กฎหมายหลายอย่างในประเทศ ไม่ได้แก้ไขมานานหลายสิบปี แต่ผมมั่นใจว่าทั้งนโยบายการประหารชีวิตผู้ทุจริตและนโยบายเพิ่มโทษสแกมเมอร์ของนายพีระพันธุ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำได้จริง ทั้งจะแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลัง ไม่ทันสมัย เพื่อช่วยประเทศและประชาชนได้ ผมจึงขอประชาชนช่วยสนับสนุนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้าไปเป็นรัฐบาลและผลักดันกฎหมายนี้ให้เกิดขึ้นจริง นายกวิน กล่าว
.
ด้านนายทรงยศ บุญบำรุงชัย ว่าที่ผู้สมัคร สส.กรุงเทพมหานคร เขตบางขุนเทียน ได้ร่วมให้สัมภาษณ์ในรายการ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ทำงานและพูดคุยกับประชาชน ปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อนมากที่สุด คือ เรื่องการก่อสร้างถนนพระราม 2 ที่มีปัญหาทั้งการจราจรที่ติดขัด, ปัญหาความปลอดภัยจากการก่อสร้าง ซึ่งตนได้เข้าไปศึกษาผลกระทบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งแก้ไขปัญหาเท่าที่จะทำได้ เช่น การลดมลพิษทางเสียงและแสงจากการก่อสร้าง ซึ่งหากประชาชนคนใดได้รับผลกระทบดังกล่าวในระยะ 500 เมตร จากการก่อสร้าง สามารถประสานมาที่ตนได้แล้วตนจะนำเรื่องไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมย้ำว่า ตนพร้อมจะช่วยประชาชนในทุกเรื่องเท่าที่จะทำได้
.
ผมอาจจะใหม่ทางการเมือง แต่ผมย้ำว่า ผมเชื่อมั่นในตัวคุณพีระพันธุ์ เพราะท่านมีความสามารถ มีความรู้ มองเห็นปัญหา และเชื่อมั่นว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาให้ประเทศได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในเรื่องของกฎหมายที่มีความล้าหลัง ซึ่งคุณพีระพันธุ์มีความแม่นยำในเรื่องนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีผลงานที่ชัดเจนเพื่อประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง นายทรงยศ กล่าว
ในส่วนของนายรัชตะ สมบัติลาภตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวในรายการถึงนโยบายที่ต้องการเร่งแก้ไขว่า ตนต้องการผลักดันการแก้ปัญหาทุจริตในสถานบันเทิงที่มีข้าราชการคอยเก็บส่วนจากสถานบริการที่เปิดให้บริการอย่างผิดกฎหมาย รองลงมาคือปัญหาความปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงกลางคืนก็เป็นอีกปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข ซึ่งหากทำได้เชื่อว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยจะดีขึ้น และเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ระบบจำนวนมหาศาล นโยบายลำดับที่ 3 คือ การแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตให้คนไทย โดยเฉพาะโรคซึมเศร้า ที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะ 1 ใน 5 ของคนไทยประสบกับภาวะนี้ โดยเฉพาะนักเรียน
.
ผมขอเชิญชวนทุกคนเข้ามาศึกษาข้อมูลของพรรครวมไทยสร้างชาติ และมั่นใจว่าทุกนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะตอบโจทย์และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกคนได้อย่างแน่นอน นายรัชตะ กล่าว
.
รับชมรายการย้อนหลังได้ที่ : https://www.facebook.com/share/v/17RHfAQ69H/


